เรื่องราวการกดเชื้อเอชไอวีของผม "มรสุม" จากอาสาสมัครอดัมส์เลิฟวีแคร์


My Undetectable Story,  #MyUStory,  is a peer-led technology-based initiative by Adam's Love Global Foundation for MSM and Transgender Health (ALGO) for HIV-positive Thai MSM.

The programme highlights real-life stories of  Thai MSM living with HIV and enrolled in Adam's Love We Care  programme and reflects on their journey and how they successfully achieved an undetectable viral load. Through these stories the initiative aims to engage and motivate newly diagnosed MSM to achieve an undetectable viral load while optimizing technology-based support.

http://myundetectablestory.org/







เรื่องโดย มรสุม (อาสาสมัครโครงการอดัมส์เลิฟ วีแคร์) 

สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อนเลย ผมเป็นบุคคลนึงที่ติดเชื้อ HIV ครับ สงสัยมั้ยว่าผมไปติดเชื้อมาได้ยังไง ต้องขอเล่าย้อนไปเมื่อช่วงต้นปี 2560 ผมมีแฟนครับ แล้วผมไม่รู้เลยว่าเขาติดเชื้อมาหรือเปล่า ในระหว่างที่คบกันก็มีเซ็กส์กันบ่อยครั้ง ทั้งป้องกันและไม่ได้ป้องกัน จนเลิกกันไป แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมเกิดอารมณ์แบบอยากสวยอยากดูดี เลยเก็บเงินเพื่อที่จะไปทำจมูก แล้ววันนั้นก็มาถึงครับ ผมไปที่คลินิกแห่งหนึ่งในย่านรังสิต เขาได้ทำการตรวจเลือดผมก่อนที่จะทำศัลยกรรม แล้วเขาพบว่าผมมีผลเลือดที่ผิดปกติ จึงทำให้ผมไม่ได้ทำศัลยกรรมในวันนั้น และในเย็นวันนั้นเอง ผมก็ได้เข้าไปในคลินิกอีกที่หนึ่ง เพื่อเจาะเลือดหาเชื้อไวรัส ผมต้องรอผล 1 สัปดาห์ แล้วช่วงนั้นผมก็มีแฟนใหม่แล้ว แต่ผมยังไม่เคยมีอะไรกับเขานะครับ ผมก็คุยและปรึกษาแฟนคนใหม่อยู่ตลอดเวลา จนกลับไปถึงบ้าน ผมกลัวมากจนกินอะไรไม่ลงเลย ผมจึงได้หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้วเจอกับเพจอดัมส์เลิฟ ผมก็ได้ทักไปเพื่อปรึกษาและขอยาต้านไวรัสฉุกเฉิน แต่มันไม่น่าจะทันเพราะผมติดเชื้อมาแล้ว ผมจึงทนรอผลเลือดจนครบกำหนดซึ่งผลก็เป็นอย่างที่คิด ว่าเลือดบวกนะ แต่ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ผมไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งต่อ เพื่อความแน่ใจ สุดท้ายก็หลอกตัวเองไม่ได้ ผมติดเชื้อครับ แต่ใจผมสู้นะครับ ผมปรึกษาทางโรงพยาบาลเพื่อที่จะรับการรักษา และรับยา แล้วผมก็ตัดสินใจบอกแฟนว่าผมติดเชื้อ ผมได้ถามทุกอย่างกับเขาว่ารับได้มั้ย เขาก็รับได้ นั่นยิ่งทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้น แต่พ่อแม่ผมก็ยังคงไม่ได้บอกเขานะครับว่าผมติดเชื้อมา จนรับยาต้านมาแล้ว 3 เดือน ผมจึงตัดสินใจบอกความจริงกับท่านว่าผมติดเชื้อมา ท่านก็ผิดหวังนะ แต่ท่านก็ยังให้กำลังใจผมให้สู้กับมันให้ได้ จึงทำให้ผมมีแรงที่จะสู้กับมันมากขึ้น แล้วเวลาทานยาไม่ต้องแคร์สายตาใครเลย ถ้าคุณรักตัวเองอย่าไปสนใจสายตาใคร ในเมื่อเราพลาดมาแล้ว ก็เริ่มต้นใหม่กับมันได้ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้

ล่าสุดผมไปพบหมอมาเพื่อฟังผลแล็ป แล้วผลตรวจออกมาคือ ภายในไม่ถึง 1 ปี ผมสามารถกดเชื้อ HIV ไว้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าเชื้อนี้จะหายไปนะครับ มันยังอยู่กับเรา และผมก็ยังคงต้องรับยาต้านต่อไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเชื้อไวรัส HIV จะขยายตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่ แล้วก็ผมมีข้อคิดมาให้ด้วยครับ แค่เราติดเชื้อไม่ได้แปลว่าเราเป็นตัวน่ารังเกียจ เราก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งที่ผิดพลาดมาแล้ว และเราก็รับมือกับมันได้ทันท่วงที ขอบคุณนะครับที่เสียเวลามาอ่าน ผมหวังว่าประสบการณ์ของผมจะสอนให้ใครหลายคนได้รู้ว่า เมื่อเรามีเซ็กส์ไม่ว่าจะกับคนที่เราไว้ใจ หรือใครก็ตาม ควรจะป้องกันไว้ดีกว่า ขอบคุณครับ

ในส่วนของวิธีการดูแลรักษาสุขภาพหลังจากที่ตรวจพบเชื้อ แล้วได้รับยา ผมจะเน้นไปที่การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ และการทานอาหารให้เหมาะสมตามที่ร่างกายของเราควรได้รับในแต่ละวัน เพราะร่างกายเป็นของเรา ถ้าเราไม่รัก ใครจะมารักเราถูกไหมครับ ส่วนเรื่องการทานยาให้ตรงเวลา ผมขอเน้นย้ำเลยนะครับว่าเป็นไปได้อย่าทานยาเลท พยายามทานยาให้ตรงเวลาเพื่อที่เชื้อ HIV ที่เรามีอยู่ในร่างกายจะได้ไม่เกิดการดื้อยา ก่อนรับยาให้ปรึกษาแพทย์เรื่องการทานยา ข้อมูลของยาให้รอบคอบเผื่อเราแพ้ยาสูตรนึง หมอจะได้รักษาเราด้วยตัวยาอีกสูตรนึงที่เราไม่แพ้ได้ เมื่อเรารับยาแล้วก็มาปรึกษากับทางเพจอดัมส์ ก่อนได้ว่าเราควรจะทานยาตอนช่วงไหนดี เพื่อที่ทางเพจอดัมส์จะได้ให้คำปรึกษาเรื่องเวลาทานยาที่แน่นอนแล้วทางเพจก็ จะส่งเป็นข้อความมาซึ่งผมมองว่ามันสะดวกมาก บางครั้งเราลืมตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อเตือนเวลาทานยาแต่เรายังมีข้อความของทาง เพจส่งมาเตือนเราอีกด้วย
Information on this site is provided for informational purposes and is not meant to substitute for the advice provided by your own physician or other medical professional. You should not use the information contained herein for diagnosing or treating a health problem or disease, or prescribing any medication.