เรื่องราวการกดเชื้อเอชไอวีของผม "มรสุม" จากอาสาสมัครอดัมส์เลิฟวีแคร์

เรื่องราวการกดเชื้อไวรัสเอชไอวีของผม หรือ My Undetectable Story (#MyUStory) คือ โครงการเพื่อนช่วยเพื่อน ด้วยการใช้เทคโนโลยี เพื่อชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีเชื้อเอชไอวี จัดทำโดย อดัมส์เลิฟ โครงการนี้ นำเสนอเรื่องราวจริงของอาสาสมัครที่มีเชื้อเอชไอวีในโครงการอดัมส์เลิฟ วีแคร์ ถ่ายทอดเรื่องราว และความสำเร็จในการกดเชื้อเอชไอวี เพื่อส่งต่อความรู้ กำลังใจ ให้เพื่อนๆ ที่เพิ่งตรวจพบเชื้อเอชไอวี มีความเข้าใจ สามารถมีชีวิตที่แข็งแรง และมีจิตใจที่เข้มแข็งในการดำเนินชีวิต ตลอดจนสามารถกดไวรัสเอชไอวีได้สำเร็จ

สอบถามเพิ่มเติมเพื่อร่วมโครงการอดัมส์เลิฟ วีแคร์และรับการดูแลจากเราได้ฟรี ที่ไลน์ไอดีอดัมส์เลิฟ @xto5254h


อดัมส์เลิฟ ขอสงวนสิทธิ์ในการนำข้อมูลไปใช้เผยแพร่ต่อในทุกกรณี โดยไม่ได้รับการอนุญาต และเนื้อหานี้เป็นเพียงประสบการณ์บอกเล่าเฉพาะบุคคล และไม่สามารถถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ได้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับผู้อ่าน หรือผู้ตรวจพบเชื้อเอชไอวีในการดูแลตนเองในการรักษาเอชไอวีอย่างถูกต้องตามก ระบวนการทางการเแพทย์และมีวินัยเท่านั้น


ข้อ แนะนำ: ข้อมูลที่ระบุไว้บนเว็บไซต์นี้ ไม่สามารถครอบคลุมคำปรึกษาทั้งหมด หรือคำตอบทั้งหมดได้ ดังนั้น หากท่านสงสัย หรือมีคำถาม เกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ สามารถติดต่อที่สถานพยาบาลได้โดยตรง




เรื่องโดย มรสุม (อาสาสมัครโครงการอดัมส์เลิฟ วีแคร์) 

สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อนเลย ผมเป็นบุคคลนึงที่ติดเชื้อ HIV ครับ สงสัยมั้ยว่าผมไปติดเชื้อมาได้ยังไง ต้องขอเล่าย้อนไปเมื่อช่วงต้นปี 2560 ผมมีแฟนครับ แล้วผมไม่รู้เลยว่าเขาติดเชื้อมาหรือเปล่า ในระหว่างที่คบกันก็มีเซ็กส์กันบ่อยครั้ง ทั้งป้องกันและไม่ได้ป้องกัน จนเลิกกันไป แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมเกิดอารมณ์แบบอยากสวยอยากดูดี เลยเก็บเงินเพื่อที่จะไปทำจมูก แล้ววันนั้นก็มาถึงครับ ผมไปที่คลินิกแห่งหนึ่งในย่านรังสิต เขาได้ทำการตรวจเลือดผมก่อนที่จะทำศัลยกรรม แล้วเขาพบว่าผมมีผลเลือดที่ผิดปกติ จึงทำให้ผมไม่ได้ทำศัลยกรรมในวันนั้น และในเย็นวันนั้นเอง ผมก็ได้เข้าไปในคลินิกอีกที่หนึ่ง เพื่อเจาะเลือดหาเชื้อไวรัส ผมต้องรอผล 1 สัปดาห์ แล้วช่วงนั้นผมก็มีแฟนใหม่แล้ว แต่ผมยังไม่เคยมีอะไรกับเขานะครับ ผมก็คุยและปรึกษาแฟนคนใหม่อยู่ตลอดเวลา จนกลับไปถึงบ้าน ผมกลัวมากจนกินอะไรไม่ลงเลย ผมจึงได้หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้วเจอกับเพจอดัมส์เลิฟ ผมก็ได้ทักไปเพื่อปรึกษาและขอยาต้านไวรัสฉุกเฉิน แต่มันไม่น่าจะทันเพราะผมติดเชื้อมาแล้ว ผมจึงทนรอผลเลือดจนครบกำหนดซึ่งผลก็เป็นอย่างที่คิด ว่าเลือดบวกนะ แต่ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ผมไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งต่อ เพื่อความแน่ใจ สุดท้ายก็หลอกตัวเองไม่ได้ ผมติดเชื้อครับ แต่ใจผมสู้นะครับ ผมปรึกษาทางโรงพยาบาลเพื่อที่จะรับการรักษา และรับยา แล้วผมก็ตัดสินใจบอกแฟนว่าผมติดเชื้อ ผมได้ถามทุกอย่างกับเขาว่ารับได้มั้ย เขาก็รับได้ นั่นยิ่งทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้น แต่พ่อแม่ผมก็ยังคงไม่ได้บอกเขานะครับว่าผมติดเชื้อมา จนรับยาต้านมาแล้ว 3 เดือน ผมจึงตัดสินใจบอกความจริงกับท่านว่าผมติดเชื้อมา ท่านก็ผิดหวังนะ แต่ท่านก็ยังให้กำลังใจผมให้สู้กับมันให้ได้ จึงทำให้ผมมีแรงที่จะสู้กับมันมากขึ้น แล้วเวลาทานยาไม่ต้องแคร์สายตาใครเลย ถ้าคุณรักตัวเองอย่าไปสนใจสายตาใคร ในเมื่อเราพลาดมาแล้ว ก็เริ่มต้นใหม่กับมันได้ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้

ล่าสุดผมไปพบหมอมาเพื่อฟังผลแล็ป แล้วผลตรวจออกมาคือ ภายในไม่ถึง 1 ปี ผมสามารถกดเชื้อ HIV ไว้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าเชื้อนี้จะหายไปนะครับ มันยังอยู่กับเรา และผมก็ยังคงต้องรับยาต้านต่อไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเชื้อไวรัส HIV จะขยายตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่ แล้วก็ผมมีข้อคิดมาให้ด้วยครับ แค่เราติดเชื้อไม่ได้แปลว่าเราเป็นตัวน่ารังเกียจ เราก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งที่ผิดพลาดมาแล้ว และเราก็รับมือกับมันได้ทันท่วงที ขอบคุณนะครับที่เสียเวลามาอ่าน ผมหวังว่าประสบการณ์ของผมจะสอนให้ใครหลายคนได้รู้ว่า เมื่อเรามีเซ็กส์ไม่ว่าจะกับคนที่เราไว้ใจ หรือใครก็ตาม ควรจะป้องกันไว้ดีกว่า ขอบคุณครับ

ในส่วนของวิธีการดูแลรักษาสุขภาพหลังจากที่ตรวจพบเชื้อ แล้วได้รับยา ผมจะเน้นไปที่การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ และการทานอาหารให้เหมาะสมตามที่ร่างกายของเราควรได้รับในแต่ละวัน เพราะร่างกายเป็นของเรา ถ้าเราไม่รัก ใครจะมารักเราถูกไหมครับ ส่วนเรื่องการทานยาให้ตรงเวลา ผมขอเน้นย้ำเลยนะครับว่าเป็นไปได้อย่าทานยาเลท พยายามทานยาให้ตรงเวลาเพื่อที่เชื้อ HIV ที่เรามีอยู่ในร่างกายจะได้ไม่เกิดการดื้อยา ก่อนรับยาให้ปรึกษาแพทย์เรื่องการทานยา ข้อมูลของยาให้รอบคอบเผื่อเราแพ้ยาสูตรนึง หมอจะได้รักษาเราด้วยตัวยาอีกสูตรนึงที่เราไม่แพ้ได้ เมื่อเรารับยาแล้วก็มาปรึกษากับทางเพจอดัมส์ ก่อนได้ว่าเราควรจะทานยาตอนช่วงไหนดี เพื่อที่ทางเพจอดัมส์จะได้ให้คำปรึกษาเรื่องเวลาทานยาที่แน่นอนแล้วทางเพจก็จะส่งเป็นข้อความมาซึ่งผมมองว่ามันสะดวกมาก บางครั้งเราลืมตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อเตือนเวลาทานยาแต่เรายังมีข้อความของทางเพจส่งมาเตือนเราอีกด้วย
อดัมส์เลิฟ ขอสงวนสิทธิ์ในการนำข้อมูลไปใช้เผยแพร่ต่อในทุกกรณี โดยไม่ได้รับการอนุญาต และเนื้อหานี้เป็นเพียงประสบการณ์บอกเล่าเฉพาะบุคคล และไม่สามารถถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ได้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับผู้อ่าน หรือผู้ตรวจพบเชื้อเอชไอวีในการดูแลตนเองในการรักษาเอชไอวีอย่างถูกต้องตามกระบวนการทางการเแพทย์และมีวินัยเท่านั้น


ข้อแนะนำ: ข้อมูลที่ระบุไว้บนเว็บไซต์นี้ ไม่สามารถครอบคลุมคำปรึกษาทั้งหมด หรือคำตอบทั้งหมดได้ ดังนั้น หากท่านสงสัย หรือมีคำถาม เกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ สามารถติดต่อที่สถานพยาบาลได้โดยตรง