|
เรื่องดีๆ ที่อยากให้อ่าน "Cross Road" ตอนที่ 1 - จุดเปลี่ยน
Crossroad ตอน จุดเปลี่ยน
BY : Miracle บางทีผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าใครบางคนบนฟ้ากำลังเล่นตลก โยนบททดสอบโหดๆ ลงมาให้ผมอยู่เสมอ และนี่ก็คงเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ในชีวิตของผมอีกครั้ง ในขณะที่ชีวิตของผมกำลังลงตัวในทุกๆ ด้าน หน้าที่การงาน ครอบครัว และความรัก จากที่ไม่เคยเชื่อในรักแท้ของเกย์ ผมเริ่มมองความรักในแง่ดีขึ้นบ้าง เพราะสองปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าผมเจอคนที่ใช่เข้าแล้วล่ะ เราเข้ากันได้ในทุกๆ ด้าน เข้าใจกัน ยอมรับตัวตนของกันและกัน โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรกันและกัน แต่อย่างที่ผมบอก บททดสอบครั้งสำคัญกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ในคืนหนึ่งที่ผมและคนรักกำลังนอนดูหนังรักแสนเศร้าบนเตียงนอนด้วยกัน จู่ๆ แฟนหนุ่มของผมก็ร้องไห้โฮเหมือนเด็กๆ มันเป็นเรื่องแปลกที่ทำให้ผมตกใจมาก เพราะร้อยวันพันปีแฟนผมไม่เคยอินกับละเม็งละครอะไรแบบนี้ นี่แค่พระเอกป่วยหนักใกล้ตายจากนางเอกไป อะไรจะอินขนาดนั้น “เป็นอะไรไป” ผมลุกขึ้นนั่งดึงตัวเค้ามากอดแน่นๆ “คุณ ... คุณตั้งใจฟังนะ” น้ำตาเค้ายังไหลไม่หยุด “อืม ใจเย็นๆ ค่อยๆ เล่ามา” ใจคอของผมเริ่มไม่ค่อยดีแล้วล่ะ “คุณจำได้ไหม เมื่อเดือนก่อน ที่เราไปเที่ยวลพบุรีแล้วแวะไปทำบุญที่วัดพระบาทน้ำพุด้วยกัน พอกลับมาอยู่ๆ ผมก็อยากไปตรวจเลือดขึ้นมา ผมก็เลยไปที่คลีนิคนิรนาม ตรงข้างรพ.จุฬา แล้ว... แล้วผลเลือดของผมก็ออกมาเป็นบวก” “...” ช่วงเวลาหลายวินาทีที่ผมใช้ประมวลผล ทำความเข้าใจ คำว่าเลือดเป็นบวก ทำให้น้ำตาของผมไหลตามเค้าไปด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะเสียใจ ตกใจ กลัว หรืออะไร แต่ผมก็ยังสวมกอดเค้าไว้ แล้วพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” “ผมอยากให้คุณไปตรวจเลือดที่คลีนิคนิรนามกับผม เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เค้าเอ่ยปากบอกกับผมทั้งที่น้ำตานองหน้า “โอเค ผมจะไปตรวจ” “งั้นพรุ่งนี้เช้าผมจะพาคุณไปนะ” คืนนั้น เค้านอนค้างกับผม แม้ไฟจะปิดมืดสนิท และผมก็พยายามนอนนิ่งๆ ไม่ขยับตัว แต่ผมก็รู้ว่าเราทั้งคู่รู้ดีว่าไม่มีใครนอนหลับได้ลงเลย ถามว่าผมรู้สึกยังไงกับเรื่องทีเกิดขึ้น ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ที่แน่ๆ ผมไม่ได้กลัวหรือรังเกียจตัวเค้าเลย ผมยังเห็นคนรักของผมเป็นคนเดิม ถามว่าผมคิดหาเหตุผลที่มาของไวรัสร้ายนี้ไหม ไม่เลย ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันจากใคร บางทีอาจจะเป็นเพราะตัวผมเองด้วยซ้ำ ที่คิดวนไปวนมาอยู่ในหัวคือ เราสองคนจะใช้ชีวิตกันยังไงต่อไป “นอนไม่หลับเหรอ” เสียงเค้าดังขึ้นข้างๆ ตัวผม “อืม” “ไม่ต้องกลัวนะ” ผมหันไปนอนกอดเค้า ไม่มีประโยชน์ที่จะกลัวในสิ่งที่ยังไม่มาถึง เพราะพรุ่งนี้ต่างหากที่ผมจะได้รู้ผลเลือดของตัวเอง (โปรดติดตามตอนต่อไป) |