|
Crossroad 12 ตอน โครงการพิเศษ
Crossroad กลับมาแล้ว เนื่องด้วย นักเขียน คุณ Miracle ของเรา ยุ่งมว๊ากก ตอนนี้ หาเวลามาได้รีบปั่น Crossroad ตอนที่ 12 มาให้อดัมส์เลิฟทันที ขอบคุณมากๆ นะจ๊ะ ไปอ่านกันดีกว่า
จำนวน Viral Load ของแฟนผมที่มีอยู่ถึง 160,000 Copies นั้น ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย ขณะที่เราทั้งคู่ไม่รู้จะตัดสินใจทำอย่างไรกันดี จะเดินไปทางไหนกันต่อ ก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาบนทางเดินของเราทั้งคู่ เมื่อเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของคลีนิกนิรนามเข้ามาชวนให้แฟนของผมเข้าร่วมโครงการวิจัยของทางศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ซึ่งกำลังมองหาเกย์ที่ติดเชื้อ HIV แล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มยา เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้เข้าร่วมโครงการ พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยโครงการที่ว่านี้จะตรวจเช็กสุขภาพโดยรวมของผู้ติดเชื้อ HIV ทั้งการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจสุขภาพอื่นๆ พร้อมกับขอข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศ และการใช้ชีวิตด้วย ในโอกาสเดียวกันนี้ ในโครงการเดียวกันก็ยังเปิดรับ ชาวเกย์ที่ยังไม่ได้ติดเชื้อ หรือมีผลเลือดเป็นลบ เพื่อดูแลให้ความรู้เรื่องสุขภาพทางเพศ และโรคเอดส์ไปพร้อมกัน ดังนั้น เราทั้งคู่จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการด้วยกัน สำหรับตัวผมเองนั้น การเข้าร่วมโครงการ ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความเข้าใจ ศึกษา และรับรู้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันกับผู้ติดเชื้อ HIV พร้อมกับได้ดูแลตัวเองไปด้วย นอกจากนี้ ผมยังอยากทำอะไรตอบแทนคืนกลับสู่สังคมบ้าง อย่างน้อยการเสียสละเวลาและเลือดของตัวเอง เพื่องานวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของชายรักชายและโรคเอดส์ ก็น่าจะทำให้สถานการณ์ของโรคเอดส์ในประเทศไทยดีขึ้น ไม่มากก็น้อย การเข้าร่วมโครงการก็ไม่มีอะไรมาก เริ่มจากกรอกข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของตัวเองเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างคำถามก็เช่น ในสามเดือนที่ผ่านมา คุณมีคู่นอนจำนวนทั้งหมดกี่คน มีเพศสัมพันธ์ผ่านทางช่องทางไหนบ้าง ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งหรือไม่ ฯลฯ รวมถึงคำถามวัดระดับความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเอดส์และการติดต่อ เช่น เชื้อ HIV สามารถติดต่อทางใดได้บ้าง พฤติกรรมใดถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยง ฯลฯ กรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ก็เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโครงการ และตรวจเลือดเพื่อเช็กสถานะเลือดของตัวเองว่าเป็นบวกหรือลบ รวมถึงการตรวจเช็กโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ทั้งหมดนี้ เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แถมยังได้ค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ เป็นการตอบแทนกลับมาอีกด้วย ส่วนระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการนั้น ก็มีเวลาเพียงแค่ 1 ปี มาพบเพื่อตรวจเช็กสุขภาพกันทุก 3 เดือน เรียกว่าเป็นโอกาสที่จะได้ดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างเต็มที่เลยทีเดียว การเข้าร่วมโครงการวิจัยนี้ ทำให้ผมกับแฟนได้ปรึกษาเรื่องจำนวน Viral Load ที่มีอยู่สูง กับทางพี่ๆ เจ้าหน้าที่ ซึ่งพี่ๆ ก็แนะนำให้รอให้เวลาผ่านไปสักระยะ แล้วเช็กระดับ Viral Load กันอีกครั้ง ถ้าหากมีจำนวนสูงอยู่เช่นเดิม ก็ควรจะต้องเริ่มยา โดยไม่ต้องรอให้ CD4 ลดต่ำจนถึงเกณฑ์ เรื่องสำคัญคือการปรึกษากับคุณหมอที่ดูแลอาการว่าจะยอมจ่ายยาให้หรือไม่ แต่แล้วก็มีเหตุที่ช่วยเร่งให้ผมกับแฟนต้องคิดหนักเรื่องเริ่มยากันอีกหนึ่งเรื่อง ... เมื่อจู่ๆ แฟนผมก็มีอาการของโรคงูสวัด!! มันเริ่มมาจากการมีตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นมาที่หน้าอกของเค้า ทีแรกเค้าเองก็ไม่คิดจะใส่ใจอะไรกับมัน จนผมต้องกระตุ้นเตือนว่า มันอาจจะเป็นอาการหนึ่งที่เกี่ยวพันกับเชื้อ HIV ก็ได้ อย่าปล่อยเอาไว้ ลองไปคุยกับหมอดู ซึ่งแฟนของผมก็ยอมเชื่อฟัง ทว่า คุณหมอที่ตรวจอาการในวันนั้น กลับบอกว่า เป็นผื่นที่เกิดจากการแพ้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พร้อมกับจ่ายยาทาแก้คันมาให้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตุ่มที่ว่าก็เริ่มกระจายตัว เป็นผื่นแดง พร้อมมีอาการพุพองผสมด้วย บอกตรงๆ ว่าใจคอผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอก ยิ่งรู้ว่า Viral Load ของเค้ามีอยู่สูงเป็นแสนๆ ผมยิ่งมั่นใจว่ามันจะต้องเกี่ยวพันกัน ทำให้ผมต้องย้ำให้เค้าไปหาหมออีกครั้ง ในโรงพยาบาลแห่งใหม่ นั่นล่ะครับ เราถึงได้รู้ว่า นี่คือ “งูสวัด” (โปรดติดตามตอนต่อไป) กลับไปอ่านตอนที่ 1 - จุดเปลี่ยน ตอนที่ 2 - นิรนาม ตอนที่ 3 - ลุ้น ตอนที่ 4 - บวกหรือลบ ตอนที่ 5 - เซ็กซ์ของเรา รักของเรา ตอนที่ 6 - มิตติ้งทริป ตอนที่ 7 - เพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ ตอนที่ 8 - รับน้องใหม่ ตอนที่ 9 - คนใกล้ตัว ตอนที่ 10 - ปิดทริป ตอนที่ 11 - ศัพท์แสง แสนงง |